เตือนภัย!! ผลิตภัณฑ์รสดี-อายิโนะโมะโต๊ะปลอม ผู้บริโภคโปรดระวัง!!

ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้รับเรื่องร้องเรียน จาก บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด ว่าได้รับการแจ้งจากผู้บริโภคพบสินค้ารสดีและผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะปลอม ที่ซื้อจากร้านค้าในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ซึ่งในฐานะผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายสินค้าดังกล่าว มีความเป็นห่วงผู้บริโภคที่อาจถูกหลอกลวงให้ซื้อสินค้าปลอม และได้รับผลกระทบจากสินค้าคุณภาพต่ำที่ไม่ได้มาตรฐาน

เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัย จึงขอแจ้งประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนในจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้ระมัดระวังในการซื้อและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารดังกล่าว และขอให้สังเกตผลิตภัณฑ์ดังกล่าวก่อนซื้อมาบริโภค ตามรูปที่ได้แสดงไว้ ณ ที่นี้

อย. เตือนอันตราย “เยลลี่หมีเผ็ดนรก” อย่าให้เด็กซื้อกิน

อย. เตือนภัยผู้ปกครองให้ระวังอันตรายจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ “เยลลี่หมีเผ็ดนรก”  พบการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ยังพบการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง ดังนั้นผู้ปกครองควรระมัดระวังอย่าให้บุตรหลานซื้อขนมชนิดดังกล่าวมารับประทาน เนื่องจากอาจทำให้เกิด การระคายเคืองในกระเพาะอาหารได้ หากมีโรคประจำตัว หรือมีประวัติการเป็นโรคกระเพาะอาหารไม่ควรรับประทาน เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายได้ ย้ำเตือนผู้ประกอบการให้ดำเนินธุรกิจ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นสำคัญ

           นายแพทย์พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูล เพื่อเตือนภัยให้ผู้ปกครองระมัดระวัง อย่าให้เด็กรับประทานผลิตภัณฑ์ “เยลลี่หมีเผ็ดนรก” เนื่องจากมีผู้ได้รับอันตรายจากการรับประทานผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปแล้วเกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รุดตรวจสอบข้อเท็จจริงพบเว็บไซต์ Facebook ชื่อ “MheeMeekhong” มีการโฆษณาสรรพคุณของผลิตภัณฑ์เยลลี่หมีเผ็ดนรกในทำนองว่า “เยลลี่หมีนรก เผ็ดที่สุดในปฐพี” ทำมาจากพริก Carolina reaper ซึ่งเป็นพริกที่เผ็ดที่สุดในโลกเหมาะสำหรับให้เป็นของขวัญกับเพื่อนที่รัก (มาก) หรือนำไปใช้เป็นบทลงโทษ…ซึ่งข้อความเหล่านี้เป็นการโฆษณาสรรพคุณ คุณประโยชน์ หรือคุณภาพของอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. และจากการตรวจสอบข้อมูลการอนุญาตผลิตภัณฑ์ พบผลิตภัณฑ์ ชื่อ วุ้นเจลาตินสำเร็จรูปผสมพริก (กลิ่นสตรอเบอร์รี่) (เลขสารบบอาหาร 10-1-00549-5-0012) ผลิตโดย บริษัท ซี.เอ็ม.กัมมี่ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 1083,1085 ซอยกาญจนาภิเษก 008 แขวง/เขตบางแค กรุงเทพมหานคร ซึ่งวุ้นสำเร็จรูปและขนมเยลลี่ในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิทจัดเป็นอาหารที่ต้องมีฉลาก ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 100 (พศ. 2529) เรื่อง การแสดงฉลากของวุ้นสำเร็จรูปและขนมเยลลี่และจากการตรวจสอบฉลากอาหารในเบื้องต้นพบว่า มีการแสดงสูตรส่วนประกอบที่สำคัญไม่ถูกต้อง เนื่องจากอาหารนี้มีรสเผ็ดเป็นจุดเด่นจะต้องมีการแสดงว่ามีพริกเป็นส่วนประกอบสำคัญลงบนฉลาก แม้ว่าจะมีการใส่พริกผงลงไปเพียงแค่ 1 % กรณีที่ตรวจพบการแสดงฉลากไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท กรณีโฆษณาสรรพคุณ คุณประโยชน์ของอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท และ หากตรวจพบโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณอาหารอันเป็นเท็จ หรือ หลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อ โอ้อวดสรรพคุณเกินความจริง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมา

          รองเลขาธิการ ฯ อย. กล่าวในตอนท้ายว่า อย. ขอเตือนผู้ปกครองอย่าให้บุตรหลานซื้อขนมชนิดนี้มารับประทานหรือนำไปแกล้งผู้อื่น เนื่องจากผู้ที่รับประทานขนมชนิดนี้เข้าไป อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารได้ และอาจได้รับอันตราย โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือพบประวัติการเป็นโรคกระเพาะอาหาร ควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายได้ ย้ำเตือนผู้ประกอบการทุกรายให้ดำเนินธุรกิจ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นสำคัญ และอย่าโฆษณาคุณภาพสรรพคุณ คุณประโยชน์ โดยไม่ได้รับอนุญาต และหากผู้บริโภคได้รับอันตรายจากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่ สายด่วน อย. 1556 หรือที่ E-mail: 1556@fda.moph.go.th หรือ ตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือร้องเรียน ผ่าน Oryor Smart Application หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ

อ่านข่าวฉบับเต็ม

เตือน!! ผู้ประกอบการรีบแจ้งยืนยันดำเนินกิจการเครื่องสำอาง ด่วน!! ก่อนถูกเพิกถอนใบรับแจ้ง

อย. แจ้ง ผู้ประกอบการเครื่องสำอาง รีบแจ้งยืนยันการดำเนินกิจการกับ อย. หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพื่อใช้ประกอบในการตรวจสอบสถานที่ผลิต หรือนำเข้าเครื่องสำอาง หากไม่ยืนยัน จะถือว่าไม่ประสงค์ดำเนินกิจการต่อ  อย.จะมีมาตรการเพิกถอนใบรับจดแจ้งต่อไป แนะผู้ประกอบการเครื่องสำอางศึกษากฎระเบียบและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการทางกฎหมายทันที

           เภสัชกรสมชาย ปรีชาทวีกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศฯ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการผลิตหรือนำเข้าเครื่องสำอาง เพื่อเพิ่มมาตรการในการคุ้มครองความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยกำหนดให้สถานที่ผลิตและนำเข้าเครื่องสำอางต้องปฏิบัติตามประกาศฯ ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2561 เป็นผลทำให้ผู้ประกอบการรายใหม่ต้องจัดเตรียมสถานที่และอุปกรณ์ฯ ให้เป็นไปตามประกาศฯ ฉบับดังกล่าวทันทีเพื่อใช้ประกอบการยื่นจดแจ้งเครื่องสำอาง ส่วนผู้ประกอบการที่ได้รับใบรับจดแจ้งก่อนวันที่ 24 พฤษภาคม 2561 ต้องยืนยันตัวตนว่ามีความประสงค์จะดำเนินกิจการต่อ โดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ( อย. ) จะส่งหนังสือลงทะเบียนไปยังผู้ประกอบการเครื่องสำอางทุกแห่ง และขอความร่วมมือผู้ประกอบการเครื่องสำอางทุกรายเร่งดำเนินการยืนยันตัวตนในการดำเนินกิจการกับ อย.หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด   ที่เป็นที่ตั้งของสถานที่ผลิตหรือนำเข้าเครื่องสำอางของตน หากไม่แจ้งยืนยันตัวตนภายใน 45 วัน หลังได้รับหนังสือลงทะเบียนดังกล่าว  อย. จะมีมาตรการในการเพิกถอนใบรับแจ้งต่อไป ส่วนผู้ประกอบการที่ได้รับใบรับจดแจ้งอยู่ก่อนแล้ว แต่ไม่สามารถปฏิบัติตามประกาศฯ หรือมิได้มีการผลิตหรือนำเข้าเครื่องสำอาง ณ สถานที่ที่ได้แจ้งไว้ จะต้องมาแจ้งเลิกการประกอบกิจการและขอยกเลิกใบรับจดแจ้งทั้งหมดโดยเร็ว เพราะหากต่อมาตรวจพบว่ายังดำเนินกิจการอยู่ จะถูกดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

          รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวในตอนท้ายว่า กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดนโยบายในการตรวจสอบสถานที่ผลิตหรือนำเข้าเครื่องสำอางทั่วประเทศให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน จึงขอเตือนผู้ประกอบการทุกรายต้องดำเนินกิจการให้ถูกต้องตามมาตรฐานและหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามข้อมูลผ่าน ระบบให้คำปรึกษาออนไลน์ (Consultation e-Service) เว็บไซต์ www.thaifda.org/econsult หรือหากประสงค์จะยกเลิกการผลิตหรือนำเข้าเครื่องสำอาง สามารถเข้าดูตัวอย่างจดหมายขอยกเลิก   ใบรับจดแจ้งเครื่องสำอาง ได้ที่ เว็บไซต์ อย.www.fda.moph.go.th เลือก “เครื่องสำอาง” และคลิก “การขออนุญาตเกี่ยวกับเครื่องสำอาง” จากนั้นเลือก “ตัวอย่างจดหมายขอยกเลิกใบรับจดแจ้งเครื่องสำอาง”

หมี่กรอบ 8 รส …. 8 ริ้ว (นิตยสาร Smart BIZ by อย. ประจำเดือน มี.ค. – เม.ษ. 61)

นิตยสาร Smart BIZ by อย. ประจำเดือน มี.ค. – เม.ษ. 61 โดยคอลัมน์ Smart Startup ได้แนะนำ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรปากน้ำโจ้โล้ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ผู้ผลิต “หมี่กรอบ 8 รส 8 ริ้ว” ซึ่งล่าสุดได้รับรางวัล อย. Quality Award ถึง 2 ปีซ้อน (2559 และ 2560) 

ดาวน์โหลดไฟล์นิตยสาร

อย. พร้อมลุยตรวจเข้มโรงงานผลิตเครื่องสำอางทั่วประเทศ หากฝ่าฝืนลงโทษหนัก

อย. ออกกฎใหม่ยกระดับสถานที่ผลิตเครื่องสำอางทั่วประเทศทั้งรายเก่าและรายใหม่ เริ่มตั้งแต่ 24 พ.ค. 61 พร้อมลุยตรวจสอบโรงงานเครื่องสำอางทั่วประเทศให้เสร็จภายใน 3 เดือน ล่าสุดจับมือ สสจ.ปทุมธานี เข้าตรวจสอบสถานที่ผลิตเครื่องสำอาง สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในเรื่องความปลอดภัยของเครื่องสำอาง

นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสนับสนุนงานบริการสุขภาพ นายแพทย์วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และนายแพทย์ณรงค์ ตั้งตรง-ไพโรจน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ได้ลงพื้นที่ตรวจโรงงานผลิตเครื่องสำอาง ณ บริษัท ปฐวิน จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 55/1 ม.6 ต.บางเตยอ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งนายแพทย์เจษฎาโชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการตรวจสอบสถานที่ผลิตว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญกับงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค และขณะนี้ได้มอบนโยบายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดเข้มงวดลงพื้นที่ตรวจโรงงานเครื่องสำอาง   ทั่วประเทศให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนส่วนผู้ผลิตเครื่องสำอางในประเทศรายใหม่จะต้องได้รับการตรวจสถานที่ จาก อย. หรือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในเขตพื้นที่ตั้งของสถานที่ผลิตก่อนการอนุญาตจดแจ้งผลิตเครื่องสำอางให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันนับจากวันที่ยื่นคำขอ สำหรับในวันนี้ (4 มิ.ย.61) ได้เข้าตรวจบริษัท   ปฐวิน จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและรับจ้างผลิตเครื่องสำอางหลายประเภท ผลการตรวจพบว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานเบื้องต้นตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขในการผลิต หรือนำเข้าเครื่องสำอาง พ.ศ. 2561 ดังนั้นจึงขอให้โรงงานเครื่องสำอางทั่วประเทศปฏิบัติให้ถูกต้องตามประกาศฯ ฉบับใหม่ หากฝ่าฝืนไม่ดำเนินการตามประกาศฯ อย. จะเพิกถอนใบรับจดแจ้ง รวมทั้งมีโทษจำคุก 1 ปี และปรับไม่เกิน100,000 บาท

นายแพทย์วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวต่อไปว่า อย.ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลผลิตภัณฑ์สุขภาพได้เร่งตรวจสอบสถานที่ผลิต โดยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ตรวจสอบสถานที่ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีความเสี่ยงไปครบถ้วนแล้ว และจะดำเนินการต่อเนื่องในการตรวจสอบสถานที่ผลิตเครื่องสำอางกว่า 1,000 แห่งให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน

ดาวน์โหลดเอกสารแนบที่นี่

อย. ยกระดับไซบูทรามีนเป็นวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ฝ่าฝืนโทษหนักขึ้น จำคุกสูงสุดถึง 20 ปี และปรับถึง 2 ล้านบาท

อย. ยกระดับไซบูทรามีนเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 1 เอาโทษถึงที่สุด หากผลิต นำเข้าหรือส่งออกผลิตภัณฑ์ที่มีไซบูทรามีนเป็นส่วนผสม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 – 20 ปี และปรับตั้งแต่ 5 แสนบาท – 2 ล้านบาท หากขายจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 4 – 20 ปี และปรับตั้งแต่ 4 แสนบาท – 2 ล้านบาท รวมถึงการครอบครองผลิตภัณฑ์ดังกล่าวก็ถือว่าเป็นการกระทำผิดด้วย

        วันนี้ (24 พฤษภาคม 2561) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทว่า จากกรณีผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร   ที่มีการลักลอบใส่ไซบูทรามีนและเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิต โดยไซบูทรามีน (Sibutramine) ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลางทำให้รู้สึกไม่อยากอาหารและส่งผลข้างเคียงกับคนที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดต่าง ๆ ปี 2553 ทางประเทศในยุโรปจึงประกาศยกเลิกไม่ให้ใช้ยานี้ รวมทั้งในประเทศไทยได้มีการเรียกเก็บยาที่มีสารไซบูทรามีนออกจากท้องตลาดและยกเลิกทะเบียนยาไซบูทรามีน แต่ปัจจุบันผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยังแอบเจือปนสารไซบูทรามีนในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อหวังลดน้ำหนัก ซึ่งเข้าข่ายเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ผู้ใดผลิต จำหน่ายมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งจากการดำเนินการที่ผ่านมายังพบการลักลอบใส่สารไซบูทรามีนในหลายผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงเสนอคณะกรรมการวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ยกระดับไซบูทรามีนเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 ตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559  ซึ่งหากผลิต นำเข้าหรือส่งออกผลิตภัณฑ์ที่มีไซบูทรามีนเป็นส่วนผสมจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 – 20 ปี และปรับตั้งแต่ 5 แสนบาท – 2 ล้านบาท หากขายจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 4 – 20 ปี และปรับตั้งแต่ 4 แสนบาท – 2 ล้านบาท รวมถึงการครอบครองผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ก็ถือว่าเป็นการกระทำผิดด้วย

นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวเพิ่มเติมว่า  ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่สามารถลดความอ้วนได้ หากมีการโฆษณาว่าสามารถช่วยรักษาโรค ลดความอ้วน หรือมีผลในทางยา ขอให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจมีส่วนผสมของยา ซึ่งผู้ใช้อาจได้รับผลข้างเคียงจากยานั้น  จนเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต หากผู้บริโภคต้องการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคและควบคุมอาหาร รวมทั้งออกกำลังกายอย่างเหมาะสม หากผู้บริโภคต้องการใช้ยาลดความอ้วนจะต้องใช้ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น ไม่ควรหาซื้อยามารับประทานเอง เพราะอาจส่งผลกระทบ กับสุขภาพและชีวิต การใช้ยาลดความอ้วนไม่สามารถทำให้หายจากโรคอ้วนได้ เมื่อหยุดยาไประยะหนึ่งแล้วจะทำให้น้ำหนักกลับมาเพิ่มมากยิ่งขึ้น หรือที่เรียกว่า YO – YO Effect หากผู้บริโภคพบเห็นเบาะแสการโฆษณา การผลิต/จำหน่ายยาลดความอ้วนผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรือ ร้องเรียนผ่าน Oryor Smart Application หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอย่างเข้มงวดต่อไป

ดาวน์โหลดเอกสารแนบที่นี่

สสจ.ฉะเชิงเทรา ตรวจสอบเฝ้าระวังสถานที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง

วันที่ 16 พฤษภาคม 2561 เวลา 10.00 น. พนักงานเจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย สาธารณสุขอำเภอบ้านโพธิ์ ได้รับอำนวยการมอบหมายจาก นพ.ปรารถนา ประสงค์ดี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา ดำเนินการตรวจสอบเฝ้าระวังสถานที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง ในพื้นที่อำเภอบ้านโพธิ์ และในเวลา 14.00 น. ทางกลุ่มงานฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบเฝ้าระวังสถานที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง ในพื้นที่อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ผลการตรวจสอบไม่พบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง ที่ผลิตจาก บริษัท เมจิกสกิน และผลิตภัณฑ์ลีน ตามที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ แต่พบผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีฉลากไม่ถูกต้อง เช่น ไม่มีเลขจดแจ้ง และไม่แสดงที่อยู่ผู้ผลิต โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตักเตือนและให้เก็บผลิตภัณฑ์ดังกล่าวทันที พร้อมกำชับไม่ให้มีการจำหน่ายอีก หากพบว่ามีการจำหน่ายอีกครั้งจะดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งได้ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับผู้จำหน่ายในการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ก่อนนำเข้ามาจำหน่ายอีกด้วย โดยผู้จำหน่ายหรือผู้บริโภคสามารถตรวจสอบความถูกต้องของเลขสารบบอาหาร หรือเลขที่จดแจ้งเครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่นๆ ได้ที่เวบไซต์ อย. หรือโทร 1556 หรือที่เวบไซต์ของกลุ่มงานฯ http://www.govesite.com/fda8riew โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้จำหน่ายทุกร้าน ซึ่งทางกลุ่มงานฯ มีแผนการดำเนินการเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์สุขภาพอย่างต่อเนื่องต่อไป

ประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง สั่งให้ระงับการกระทำฝ่าฝืน หรือแก้ไขปรับปรุงหรือปฏิบัติให้ถูกต้อง (เครื่องสำอาง เมจิก สกิน)

ดาวน์โหลดเอกสารแนบที่นี่

ประชาสัมพันธ์ : อย. เผยผลดำเนินการกรณีผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Lyn ลีน

อย. เผยผลพิสูจน์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดความอ้วน “ลีน เอฟเอส-ทรี” และ“ลีน บล้อค เบิร์น เบรก บิวท์ ”ลักลอบใส่ยาแผนปัจจุบัน บิซาโคดิลและไซบูทรามีน เข้าข่ายเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ อย่าซื้อมาบริโภคอาจได้รับผลข้างเคียงถึงขั้นเสียชีวิตได้

นายแพทย์พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่ากรณีของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “Lyn ลีน” นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้มีการติดตามเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องมาระยะหนึ่งแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ สสจ.ชลบุรีและตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ได้เข้าตรวจสอบพร้อมเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสถานที่จำหน่ายและแบ่งบรรจุอาหาร ณ บ้านเลขที่ 109/8-9 หมู่ที่ 3 ถนนพระยาสัจจา ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ส่งตรวจวิเคราะห์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 6 ชลบุรี โดยฉลากผลิตภัณฑ์ระบุ “ลีน เอฟเอส-ทรี” (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) Lyn FS-Three (Dietary supplement product by Pim) เลขสารบบอาหาร 13-1-05459-5-0017 ผลิตโดย Food Science Supply Service Co.Ltd. 99/29 หมู่ 2 ตำบลสามโคก อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี 12160 จัดจำหน่ายโดย Lyn by Pim วันที่ผลิต 10/12/2017 วันหมดอายุ 10/12/2019 ลักษณะแคปซูลสีเขียวในแผงอลูมิเนียมพลาสติก แผงละ 10 แคปซูล ห่อด้วยซองอลูมิเนียมปิดผนึกบรรจุกล่องกระดาษ ผลการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวพบยาแผนปัจจุบัน บิซาโคดิล (Bisacodyl) ซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาระบาย และได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ “ลีน บล้อค เบิร์น เบรก บิวท์” Lyn Block Burn Break Build (Dietary supplement product) by Pim ฉลากระบุ เลขสารบบอาหาร 13-1-05459-5-0006 ผลิตโดย บริษัท ฟู้ด ซายน์ ซัพพลาย เซอร์วิส จำกัด 99/29 หมู่ 2 ต. สามโคก อ. สามโคก จ. ปทุมธานี จัดจำหน่ายโดย บริษัท เอกอัครินทร์ จำกัด 109/8 หมู่ 3 ถนนพระยาสัจจา ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี Lot.1801 MFG 05-01-18 EXP. 05-01-20 ลักษณะแคปซูลสีขาวในแผงอลูมิเนียมพลาสติก แผงละ 10 แคปซูล ห่อด้วยซองอลูมิเนียมปิดผนึกบรรจุกล่องกระดาษ ผลการตรวจวิเคราะห์พบ ไซบูทรามีน (Sibutramine) ซึ่งออกฤทธิ์ต่อการทำงานของสมองทำให้อยากอาหารลดลงและอิ่มเร็วขึ้นและในวันที่ 25 เมษายน 2561 อย. ได้ออกประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเรื่อง ประกาศผลการตรวจพิสูจน์อาหาร เตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการซื้อและบริโภคอาหารดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 รายการนี้เข้าข่ายเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ และเป็นอาหารที่น่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรืออนามัยของประชาชน ผู้ใดผลิต จำหน่ายมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ อย. ยังได้ร่วมกับตำรวจ บก.ปคบ. เข้าตรวจสอบสถานที่ผลิตอาหาร บริษัท ฟู้ด ซายน์ ซัพพลาย เซอร์วิส จำกัด จ.ปทุมธานี โดยสุ่มเก็บตัวอย่างวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ทั้งสองรายการส่งตรวจวิเคราะห์คุณภาพ และขณะเดียวกันได้เข้าตรวจสอบการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “Lyn ลีน” ณ บ้านเลขที่ 109/8 หมู่ 3 ถนนพระยาสัจจา ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ซ้ำซึ่งพบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สำหรับกรณีที่เป็นข่าวเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2561 พบผู้ชายอายุ 47 ปี เสียชีวิตที่ จ.ปทุมธานี โดยพี่สาวผู้ตายให้การว่าผู้ตายไม่มีโรคประจำตัว แต่ที่ผ่านมาได้กินยาลดความอ้วนมา 2 เดือน เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบผลิตภัณฑ์ Lyn DTOX fS3 (ลีนกล่องสีดำ) ฉลากระบุเลขสารบบอาหาร 13-1-05459-5-0017 Lot No.1801 วันที่ผลิต (Mfg.) 05-01-18 วันหมดอายุ (Exp.) 05-04-20 และผลิตภัณฑ์ Lyn BLOCK BURN BREAK BUILD (ลีนกล่องสีขาว) ระบุเลขสารบบอาหาร 13-1-05459-5-0006 Lot 1802 วันที่ผลิต (Mfg.) 10-01-2561 วันหมดอายุ (Exp.) 10-01-2563 จึงได้เก็บผลิตภัณฑ์ลีนทั้งสองรายการที่พบภายในห้องผู้ตายไปตรวจสอบว่ามีสารอันตรายหรือไม่ สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่ และในวันเดียวกันนี้เจ้าหน้าที่จาก อย. สสจ.ปทุมธานี ทหารจากกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้สนธิกำลังร่วมกันตรวจสอบ ณ สถานที่ผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเพื่อหาข้อมูลและพยานหลักฐานเพิ่มเติมแล้ว

รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวต่อไปว่า จากการดำเนินการที่ผ่านมา พบว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อ้าง ลดความอ้วนมักลักลอบใส่สารไซบูทรามีนซึ่งเป็นอันตรายและมีผลข้างเคียงร้ายแรง ขอย้ำว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่สามารถลดความอ้วนได้ หากผู้บริโภคต้องการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคและควบคุมอาหาร ไม่ทานอาหารพร่ำเพรื่อ ควรเลือกรับประทานอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารรส หวาน มัน เค็ม รวมทั้งออกกำลังกายอย่างเหมาะสม หากผู้บริโภคต้องการใช้ยาลดความอ้วนจะต้องใช้ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น ไม่ควรหาซื้อยามารับประทานเอง เพราะอาจส่งผลกระทบกับสุขภาพและชีวิต การใช้ยาลดความอ้วนไม่สามารถทำให้หายจากโรคอ้วนได้ เมื่อหยุดยาไประยะหนึ่งแล้ว จะทำให้น้ำหนักกลับมาเพิ่มมากยิ่งขึ้น หรือที่เรียกว่า YO – YO Effect หากผู้บริโภคพบเห็นเบาะแสการโฆษณา การผลิต/จำหน่ายยาลดความอ้วนผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรือ ร้องเรียนผ่าน Oryor Smart Application หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอย่างเข้มงวดต่อไป

ดาวน์โหลดเอกสารแนบที่นี่